วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ไอศครีมกะทิ สูตรธรรมดา (ไม่มีนม)

ไอศกรีมกะทิ
 ( Coconut Ice Cream)
สูตรไอศกรีมกะทิธรรมดา ไม่มีนม
สูตรนี้จะเป็นไอศกรีมกะทิธรรมดา ส่วนผสมหาง่าย ๆ สูตรไอศกรีมกะทิเข้มข้นแบบไม่มีส่วนผสมของนม
ส่วนผสม
1. หัวกะทิคั้นสด ๆ 3 ถ้วยตวง
2. น้ำตาล 3/4 ถ้วยตวง
3. น้ำสะอาด 1/2 ถ้วยตวง
4. ใบเตยหอมล้างสะอาด 4-5 ใบ
5. แป้งข้าวโพด หรือแป้งมันก็ได้ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. ละลายแป้งในน้ำเย็นเล็กน้อย ต้มน้ำ ประมาณ 1/2 ถ้วยที่เหลือให้เดือดจัด แล้วนำมาลวกแป้งให้สุก กวนเร็ว ๆ จนได้ลักษณะที่เป็นเจลใส ถ้าไม่เป็นเจลใสจะใช้ไม่ได้นะคะ
2. อุ่นกะทิด้วยไฟอ่อน ๆ กับใบเตยหอม
3. ละลายน้ำตาลในน้ำกะทิ และเติมน้ำแป้งจากข้อ 1
4. ต้มจนส่วนผสมทั้งหมดละลายเข้ากันดี ระวังอย่าให้กะทิแตกมัน
5. ยกลง แล้วทำให้ส่วนผสมเย็นลงอย่างรวดเร็วที่สุด อาจจะใช้น้ำแข็งและน้ำหล่อเย็น
6. บ่มส่วนผสมใส่ภาชนะที่เป็นโลหะ แล้วแช่ในตู้เย็นที่อุณหภูมิ 0-4 C เป็นเวลาอย่างน้อยประมาณ 4 ชั่วโมง
7. เอาใบเตยออก แล้วนำไปปั่นด้วยถังปั่นไอศกรีม

วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2554

บทความดีๆจากพระคัมภีร์ และคำเทศนาของศิษยาภิบาล ตอนที่ 3


1.     หนทางสู่ความมั่งคั่ง พระเจ้าจะให้บำเหน็จแกคนซื่อสัตย์ แต่คนรีบร้อนจะมั่งคั่งนั้นไม่ค่อยมั่นคง สะดุ้ง
2.     คนร่ำรวยเกิดขึ้นเพราะ จากการสะสมเล็กๆน้อยๆอย่างฉลาด
3.     ถ้าเราไม่ซื่อสัตย์ไปแล้วทำไงดี ก็จงชดใช้ค่าเสียหาย  ถ้าเป็นไปได้
1.     เราต้องต่อสู้การตัดสินใจให้ถูกต้อง เพราะแค่เราตัดสินใจ พระเจ้าก็จะรู้และช่วยเราแล้ว
2.     เมื่อมีมาก ถวายมาก พระเจ้าคืนให้มาก เมื่อมีอีก ถวายอีก พระเจ้าคืนให้อีก เรียกว่า วงจรพระพร นี่คือสิ่งที่เราเลือกได้ ระหว่างวงจรพระพร กับวงจรมาร
3.     เราจึงเป็นคริสเตียนที่มีเป้าหมายมากกว่าคนอื่น มันน่าเสียดายที่อยากให้คนฉลาดมาสอนเรา แต่เรากลับทำตามที่เราคิด แล้วให้เค้ามาทำตามเรา เราจึงไม่ได้ความฉลาดของเขามาเป็นของเรา เราจึงให้พระเจ้านำหน้า ทำตามที่พระเจ้าบอก
1.     การให้เกียรติบิดามารดา ลูกที่สัตย์ซื่อ ดูแลพ่อแม่นั้น พระเจ้าจะให้หน้าที่การงานของเรา
2.     ถ้าเราให้เกียรติพ่อแม่ อายุเราจะยืนนานอย่างมีคุณภาพ สำเร็จ
3.     ทำไมพระเจ้าให้เราให้เกียรติบิดามารดา เพราะไม่มีบิดามารดาคนไหนสมบูรณ์แบบ เพราะ ถ้าเราไม่สมบูรณ์ พ่อแม่ก็ไม่สมบูรณ์ แม้พ่อแม่แห่งชาติก็ตาม พระเจ้าจึงสอนให้เราให้เกียรติบิดามารดา เพราะท่านไม่สมบูรณ์ ยิ่งท่านมีความบกพร่อง เราก็ต้องยิ่งดูแลให้เกียรติ
4.     พ่อแม่นั้นรักลูกมากจริงๆ จึงทำให้ลูกเสียนิสัย ทำให้ลูกโตมาเป็นเห็นแก่ตัว หรือไม่เคร่งครัด จนทำให้ลูกโตมาเก็บกด และดุด่าว่ากล่าวคนอื่น มีแต่พรเจ้าเท่านั้นที่สมบูรณ์แบบ ดังนั้น พ่อแม่จึงเป็นพ่อแม่ทางโลกที่เราต้องเคารพนับถือเพราะท่านไม่สมบูรณ์แบบ
5.     ปรนนิบัติยิ่งกว่าใครในโลกนี้ ถึงคนอื่นจะเป็นอย่างไร แต่พ่อแม่นั้นเอาไว้ก่อน
6.     ยอมรับและชื่นชม กรี๊ดพ่อแม่ของเรา ว่าพ่อแม่ของเรานั้นเท่ห์มาก
7.      ยิ่งเราโตมากเท่าไหร่ เราจะเห็นข้อเสียและจุดอ่อนของพ่อแม่มากเท่านั้น
8.     การเติบโตที่ดี เราต้องสามารถรับจุดที่พ่อแม่อ่อนแอ เข้าใจ จุดอ่อน ส่วนดี และไม่เอามาเป็นเหตุให้เราไม่เคารพ ท่าน ไม่ดูถูกพ่อแม่ตนเอง
9.     ตระหนักว่าพระเจ้าใช้ท่านให้นำฉันมาในโลกนี้ แม้ท่านจะเลี้ยงดูเราอย่างไรก็ตาม แต่เราเป็นหนี้ของท่าน
10.  ดูเหมือนไม่มีใครต้องการแต่พระเจ้าต้องการให้เราเกิดมาในโลกนี้ เพราะพระเจ้าทรงมีแผนการที่แท้จริง และท่านขอร้องให้เราเป็นคนที่ยอมรับเป็นแก่พ่อแม่เรา คือตระหนักให้พระเจ้าใช้พ่อแม่เป็นที่ผ่านให้เราเกิดในโลกนี้ให้ได้
11.  ยอมรับโดยการฟังสิ่งที่ท่านพูดอยู่เสมอ ถ้าฟังท่าน ท่านจะพูดไม่เยอะ
12.  จงฟังบิดามารดาเจ้า และไม่ดูหมิ่นท่านเมื่อท่านแก่
13.  ถ้าท่านไม่เสียเวลาชีวิตดูแลเรา ชีวิตท่านอาจจะดีกว่านี้ก็ได้ ดังนั้นเราจึงดูแลท่าน
14.  การฟังนั้นทำให้เราย่นประสบการณ์ ไม่เสียเวลาชีวิตของเรา
15.  ยอมรับโดยการให้อภัย เพราะเราเองย่อมผิดพลาดโดยไม่รู้ตัว มีกี่ครั้งที่ทำให้ท่านน้ำตาตกในเชือดเฉือนหัวใจท่าน ท่านมีความรักที่ยิ่งใหญ่จริงๆ เพราะสิ่งผิดพลาดเล็กน้อย ไม่สามารถเปรียบเทียบบุญคุณที่ยิ่งใหญ่
16.  เราไม่ควรจะต่อสู้ เพราะเราต่อสู้ผิดคนเสียแล้ว    อย่าด่า บิดามารดา เพราะจะมืดมิด  ราจะขมขื่นกับท่านในอดีตเพียงใดแต่นั้นอดีตก็คืออดีต ให้อภัย ยอมรับท่าน   ถ้าไม่อยากใช้ชีวิตเยี่ยงทาส เราจะไม่ดูถูกพ่อแม่ ให้เรากลับไปให้เกียรติพ่อแม่ของเรา  การเคารพนั้นเริ่มต้นจากที่บ้าน บ้านเป็นแหล่งเพาะนิสัย  ความสัมพันธ์ที่ดีของพ่อแม่ จะมีผลต่อความสัมพันธ์ของเรากับผู้อื่น  ให้เกียรติพ่อแม่โดยการเชื่อฟังและเคารพนับถือ โดยตั้งใจ ทำทันที  ยอมรับ ชื่นชม บ้าเห่อท่าน  มีพ่อแม่อยู่ข้างกายเสมอ ชื่นชมในความพยายามของท่านที่เลี้ยงเรามา  โดยปกติคนเรานั้น เมื่อแก่ตัวลงความเคารพและเห็นคุณค่าของตัวเองน้อยลง เราจึงต้องดูแลกันเป็นทอดๆ ชีวิตพ่อแม่ของเราวันนี้คือ อนาคตยามแก่ของเราวันหน้า ยิ่งท่านแก่ ท่านก็ต้องการ การให้เกียรติสูง
17.  คนทำสิ่งดีเราควรมอบสิ่งดี พ่อแม่ทำสิ่งดีมากมายเราควรดูแลท่านตอนท่านมีชีวิตอยู่
18.  อย่าสู้คนเดียว ตามลำพัง ชีวิตเรานั้นไม่ได้ดีไซน์การสู้คนเดียว ร่างกายไม่ได้มีแต่หัว หรือจมูก
19.  เข้าหุ้นชีวิตกัน แชร์กัน เปิดเผยความลับกันบ้าง พระคัมภีร์คือ อาวุธลับสำหรับการต่อสู้ คือความคิด
20.  เมื่อเรารับผิดชอบ เราต้องเตรียมพร้อม
21.  ความมั่งคั่ง คือ ออมทรัพย์ 10% ถวาย 10% จ่ายหนี้10%  ถ้าเราจัดการเงินจำนวนน้อย ก็จัดการเงินจำนวนมากได้ เพราะการจัดการเงิน กับความเข้มแข็งทางปัญญานั้นมาคู่กัน   ปริมาณเงินในกระเป๋าเราก็วัดการเติบโตของปัญญา ของเรา เพราะพระเจ้าไม่สามารถอารักขามากกว่านี้ได้เพราะเราอารักขาเรื่องเล็กๆน้อยๆไม่ได้ ดังนั้นเราจึงฝึกการอารักขาจากเรื่องเล็กๆน้อยๆ ให้ได้
22.  เราจะไม่ใช้มากกว่าที่หาได้ และส่วนต่างนี้ก็จะสามารถทำกับอย่างอื่นได้
23.  การบริหารการเงินก็เหมือนการบริหารเวลา ไม่ใช้เงินในอนาคต บัตรเครดิต เงินกู้  ไม่มีก็ไม่ใช้
24.  ไม่ว่าจะหามาได้มากแค่ไหน แต่เงินนั้นก็ไม่เพียงพอ พระเจ้าบอกว่า ให้สะสมอย่างถูกต้อง ออมให้ถูกต้องเพื่อปกป้องเราจากแรงกระตุ้นในการใช้จ่าย ในความโง่ ถ้าไม่ออมก็จะใช้เงินจนหมด
25.  การสะสมจึงทำก่อนจ่าย ออมตั้งแต่ต้น ออมก่อนแล้วค่อยใช้ส่วนที่เหลือ ไม่ใช่เหลือแล้วค่อยออม
26.  ไม่บ้าหอบฟาง เราจะไม่ซื้อสิ่งที่เราไม่ใช้ เราจะซื้อในสิ่งที่เราใช้จริงๆ และสิ่งที่ใช้จริงๆก็มีไม่เยอะ
27.  เพื่อเราจะได้ช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อจำเป็นผู้ที่ช่วยคนจน พระเจ้าก็ทรงยืมเรา และทรงคืนแก่เราด้วย
28.  เพราะวันหนึ่งเราจะต้องการความช่วยเหลือ และเราจะช่วยเหลือเขา  หว่านมากเก็บเกี่ยวมาก
29.  ใช้ให้เงินทำงาน ดีกว่ามัวทำงานหาเงิน ออมทรัพย์สม่ำเสมอ ไม่นาน เงินนั้นจะทำงานให้เรา ขอบคุณพระเจ้า
30.  ความร่ำรวยมาจากการสะสมทีละเล็กทีละน้อย พระเจ้าไม่เคยทำให้ได้เงินมาอย่างรวดเร็วแต่แข็งแรง
31.  พระเจ้าให้เราห่างไกลการรวยทางลัด เพราะความรวยมาช้าๆและมั่นคง ดังนั้นการสะสมจึงอาศัยskill
32.  สะสมเงินไว้ในbank 10% โดยไม่ต้องมีเอทีเอ็ม
33.  การสะสมต้องมีความขยันขันแข็ง ทุกธุรกิจได้กำไรหมด ขอให้ขยัน ทำไปก่อน สะสม  จากสิ่งที่เราอยู่กับคนที่เรารู้จัก และความสามารถที่เรามี และงบที่เราหามา
34.  สตรีงามย่อมได้รับเกียรติ ชายหน้าเลือดย่อมมั่งคั่ง
35.  ทำงานเต็มที่ตราบใดที่ไม่ทำลายสุขภาพของเรา สุขภาพมาก่อน เงินมาทีหลัง สุขภาพจะปกป้องเงินของเรา
36.  ดังนั้นเงินจึงตามหลังสุขภาพ  ต้องมีเวลาดูแลสุขภาพ ครอบครัวมาก่อนเงิน
37.  ไม่ได้ดูแลตามฐานะ แต่ดูแลคนให้เหมาะสมกับอายุ กับฐานะ ตามปกติธรรมชาติของเขา
38.  เราจะไม่ให้อิทธพลแก่คนร่ำรวย  ชีวิตจริงไม่ได้อยู่เพียงเพื่อเงิน
39.  เราจะใช้ความรวยมั่งคั่งอย่างฉลาด เมื่อพระเจ้ารู้ว่าเราเข้าใจมาก พระเจ้าจะอวยพรเรามาก
40.  สะสมอย่างถูกต้อง สมดุล ต้องหาอย่างสมดุล ต้องร่ำรวยพร้อมเจริญเติบโตมีปัญญามากขึ้น เจริญขึ้นในทุกๆเรื่อง ต้องบวกฝ่ายวิญญาณให้ดีขึ้น  ในท่ามกลางสิ่งล่อลวงเต็มไปหมด วันอาทิตย์จึงช่วยปรับให้เราไม่เสียสมดุล มั่งคั่ง และวิญญาณก็รับใช้พระเจ้าได้ด้วย เติบโตทั้งร่ำรวย และวิญญาณก็เติบโต ไม่ขายวิญญาณด้วยการแลกกับเงินไม่กี่บาท อยู่กับพระเจ้าได้ทั้งวิญญาณ ได้ทั้งเงิน
41.  รู้จักวางแผนอย่างดีไม่รีบร้อน   บุคคลที่ใจกว้างขวางย่อมมั่งคั่ง  จง แบ่งปัน เงินสดๆ
42.  คนรับอย่างเดียวก็ยิ่งขัดสน ต้องคอยระบาย เป็นการจำหน่าย มีน้อยให้น้อย มากให้มาก
43.  มีคนที่จนกว่าเราเสมอ มีคนรวยกว่าเราเสมอ เมื่อเราให้คนจน พระเจ้าจะให้คนรวยกว่าให้เรา
44.  สะสมทรัพย์ในสวรรค์ ถวายทรัพย์ เงินนี้จะแปรเปลี่ยนเป็นจิตวิญญาณของคน และรูปแบบต่างๆ
45.  ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เงินนั้นเป็นเพียงแค่เงิน โดยทำงานให้หนักๆ แต่ ครอบครัว สุขภาพ มาก่อน
46.  การสะสมอย่างถูกต้อง คลังทรัพย์ประเสริฐและน้ำมันจะอยู่กับคนฉลาด แต่คนโง่กินมันหมด
47.  การสะสมอย่างถูกต้องไม่ใช่เพื่อให้ดูดี เหมือนเป้นคนมั่งคั่ง มดสะสมไว้เพื่ออาหารใหฤดูแล้ง
48.  คนอเมริกันเก็บเงิน 4% คนยุโรป16%  คนญี่ปุ่น 25% คนไทย 6.3%
49.  พระเยซูสอนว่า คนฉลาดคือคนที่สะสม คนที่ลงทุน เงินในมืองอกเงยขึ้นมาได้แต่คนโง่ใช้เงินจนหมด
50.  ถ้าไม่สะสม เราจะกลายเป็นคนทำงานเพื่อเงิน ถ้าสะสมเงิน เราจะใช้เงินทำงานเพื่อเรา
51.  ข้อสำคัญที่สุดคือ หาเงินอย่างสมดุล และรักษาจิตวิญญาณให้โตขึ้นด้วย สำคัญที่สุด
52.  จงชื่นชมยินดีต่อพระเจ้าทุกวันทุกเวลา อย่าทุกข์ร้อนต่อสิ่งใดๆเลย แต่จงทูนทุกสิ่งทุกอย่างในใจ
53.  ความบาปทางเพศมันรุนแรงจริงๆ ย่อมทำลายตนเอง ระบบร่างกาย จะรวน แตกสลายมีความสับสน ทำให้ปั่นป่วน  ความทุกข์จะเริ่มทวีขึ้น มโนธรรมที่พระเจ้าป้อนให้จะต่อสู้กับความต้องการ ก็จะผสมปนเปกัน จนสับสน ในที่สุด ใจกระด้างไปหรือ หยุดทิ้งปัญหา เราต้องต้อสู้กับความคิด หลีกเลี่ยงกับคนมีเจ้าของ
54.  ยิ่งเราผิดประเวณีมาก ความยังยั้งชั่งใจจะน้อยลง
55.  กระทบกระเทือนกับความสัมพันธ์กับพระเจ้า ซื่งอิ่มเอมใจกว่า และพระเจ้าจะนำคนที่ดีให้เรามากกว่า
56.  การทำบาปอย่างอื่นเป็นบาปภายนอกร่างกาย แต่ความบาปทางเพศเป็นบาปทางใจ เลยรุนแรงและน่ากลัวจริงๆ เหมือนการฆ่าคน ไม่มีซักรายที่จะมีความสุขหลังจากการร่วม ที่สำคัญไม่สามารถรับใช้พระเจ้าได้
57.  พระเจ้าช่วยเราได้หากเราเคยบาปทางประเวณีไม่ว่าจะร้ายแรงขนาดไหน
58.  เราไม่ได้มีความสุขอย่างที่มารมาล่อลวงเรา ความสุขบนความทุกข์แสนสาหัส  เมื่อเราอยู่กับพระเจ้าเราจะควบคุมได้มากขึ้นเหมือนเข้าฟิตเนส และรับกับการป่วยได้มากขึ้นร่างกายแข็งแรงขึ้น
59.  ผู้ชายต้องการ5สิ่ง คือ เติมเต็มความต้องการทางเพศ ต้องการความตื่นเต้นเร้าใจไม่จำเจน่าสนใจ ต้องการภรรยาดูดีดึงดูดใจเสมอ ต้องการดูแลบ้านช่องดูดีน่าอยู่  ต้องการการชื่นชมดีใจให้กำลังใจชมเชยเสมอ
60.  ฝ่ายหญิงต้องการความรักความอบอุ่นความเอาใจใส่ การปกป้อง ต้องการพูดคุยปรึกษาหารือพูดให้ฟัง ผู้หญิงต้องการรายละเอียด อธิบายเป็นฉากๆ ต้องการความสัตย์ซื่อเปิดเผยให้ฟัง ต้องการมีฐานะการเงินที่มั่นคง
61.  ตื่นเต้นกับสามีเรา ดูดี ชื่นชม  พูดจา ยกย่องให้เกียรติ แล้วเค้าจะทำหน้าที่ของเขาเอง
62.  ผู้ชายมีความต้องการทางเพศคือ Tuesday Thursday today and tomorrow.
63.  จัดการกับความคิด สงครามที่แท้จริงเกิดที่ความคิด การชนะสงครามอยู่ที่ความคิด
64.  ยอมรับความคิดบาปที่อยู่ในใจ
65.  คำเทศนาการ ลดน้ำหนัก  เดินตามฝ่ายวิญญาณ เพื่อต่อสู้กับฝ่ายเนื้อหนัง
66.  การที่จะตัดสิ่งใดออกไป ก็ต้องเติมสิ่งใหม่ขึ้นมา
67.  การกลับใจใหม่ ไม่ใช่นานๆทำที ปีละครั้งเดือนละครั้ง แต่วันละหลายๆครั้ง
68.  การร้องไห้ไม่ใช่คำตอบแต่การเปลี่ยนเส้นทางใหม่คือคำตอบ
69.  คนบาปคนเดิมได้ตายแล้ว ถูกฝังแล้ว และคนนี้ที่ได้เป็นขึ้นมาใหม่ นี่คือคนชอบธรรม คนแข็งแรง
70.  ฉันเป็นคนชอบธรรม คนมั่นใจในตนเอง คนที่มีพลัง และเราก็ได้ดำเนินชิวิตใหม่
71.  ถ้าเราทำไม่ได้ เมื่ออ่อนกำลัง พระเจ้าจะเติมให้เราได้
1.     คนชอบทำ ทำตามสายพระเนตรของพระเจ้า
2.     ฉันจะดูสวยขึ้น ฉันจะลดน้ำหนัก ฉันจะดูแลผิวพรรณ มากขึ้น
3.     ฉันกลับใจใหม่ ทำสิ่งที่ดูดี มีแต่พฤติกรรมที่ใหม่ๆ ดีๆแก่ตัวเอง
4.     การอดอาหารคือการสำนึกความผิด  หรือเสียใจในการกระทำ แล้วก็กินข้าวเหมือนเดิม
5.     ถ้าอยากลดน้ำหนัก แล้วดูโทรทัศน์แล้วกินไปด้วย นั้นไม่ได้ ต้องทำใหม่
6.     ชีวิตต้องก้าวหน้า อย่ามองย้อนกลับไปข้างหลัง ให้เราเปลี่ยนใหม่คือ
7.     การเดินไปสู่ความสว่าง
8.     ลูกได้หายจากโรคทั้งหลายแล้ว
9.     ข้าพเจ้าจะไม่ขัดสน พระองค์จะนำข้าพเจ้าไปทำงานที่พระองค์ได้เตรียมให้แก่ข้าพเจ้าและข้าพเจ้าจะทำงานถวายพระองค์
10.  ดำเนินในความรัก
11.  เราไม่ว่าใครผิด เราแค่ส่องสว่างให้ตัวเองเปลี่ยนตัวเอง แล้วให้เค้าเห็น เค้าจะเห็นเยี่ยงอย่าง แล้วเค้าจะเห็น พูดง่ายๆ ทำให้เค้าเห็นแต่อย่าไปสอนเขา
12.  จะเตือนใครก็ต้องรักก่อน จะเตือนใครก็ต้องระวัง มิฉะนั้นตัวเราเองจะโดนปรับโทษไปด้วย
13.  ถ้าเราพิพากษา เราจะได้รับการพิพากษา ถ้าเราให้อภัย เราจะได้รับการอภับ
14.  ความเชื่อทำงานด้วยความรัก ความเชื่อจะสำเร็จ
15.  ทุกอย่างเป็นไปได้สำหรับคนที่เชื่อ
16.  เมื่อเราเชื่อว่าเราจะลดน้ำหนักได้เราจะพูดและกล่าวด้วยความเชื่อ ว่าฉันจะลดน้ำหนักได้แน่นอน และดำเนินด้วยความรัก
17.  นั่นคนที่มีแต่ความรัก และฉันผอม ฉันสวย ฉันมั่นใจ ฉันเต็มเปี่ยมด้วยความรัก
18.  ฉันทำได้ เริ่มตั้งแต่เดี๋ยวนี้





บทความดีๆจากพระคัมภีร์ และคำเทศนาของศิษยาภิบาล ตอนที่ 2

1.     ความเชื่อ ความเชื่อมั่น ความมั่นใจ ที่เจ้ารอดก็เพราะเจ้าเชื่อ
2.     ที่สูงส่งนั้นให้พระเจ้าอยู่ผู้เดียว ไม่ใช่เงินหรือรูปเคารพใดๆ
3.     ใจเราอิสระ เราไม่ต้องรับใช้หรือเอาใจไปผูกติดกับคนหลายคน เราไม่ต้องทำให้แฟนพอใจ เจ้านายพอใจ เพื่อน หรือคนรอบข้างพอใจ ถ้าพระเจ้าพอใจ ทุกคนพอใจหมด
4.     มีพระเจ้าเป็นแผนที่เดียว ถ้ามีหลายแผนที่ชีวิต จะสับสนมาก เหมือนมีคู่มือหลายเล่ม
5.     รูปเคารพ ทำให้เราบิดเบี้ยวไป หน้าจะเครียด ดำ โกรธ น้อยใจ เก็บกด
6.     เรามีเวลาสำหรับอาบน้ำ หรือ ออกกำลังกายแค่ 15 นาที ก็ทำเต็มที่ เดี๋ยวจะหมดเวลาแล้ว
7.     เราไม่ได้เป็นลูกน้องใครซักคน มีเจ้านายเดียว ไม่ต้องมานั่งทำให้ใครพอใจ เพราะเราจะไม่มีเวลาทำอะไรอื่นอีกต่อไปแล้ว
8.     พระเจ้าเติมใจให้เราเต็ม เงินไม่สามารถเติมใจให้เต็มได้ คนรักไม่สามารถเติมใจให้เต็มได้
9.     มีพระเจ้าเหมือนมีทุกสิ่ง ไม่กระหาย ทำให้อิ่มได้ ไม่ใช่คนหน้าเงิน
10.  การหาพระเจ้าเหมือนเจอบ่อน้ำพุ  ไม่ต้องเสียอะไรเลย
11.  เรามองสิ่งดีในโลกนี้เป็นเหมือนโบนัส เพราะเราได้เงินเดือนประจำจากพระเจ้าแล้ว เมื่อเราอธิษฐาน พระเจ้าก็ตอบรับเรา เราจึงไม่ต้องมานั่งหน้าเครียด
12.  เราไม่ต้องมัวกังวลเพื่อให้คนอื่นยอมรับ เพราะเรามีนายคนเดียว
13.  พระเจ้าสามารถปลดปล่อยบาปจากอดีต เราจึงไม่ต้องเสียใจแบกเรื่องในอดีต บาปในอดีตพระเจ้าก็ทรงชำระแล้ว เราจึงไม่ต้องเสียชีวิตไปโดยไปรับกรรมอีกต่อไป เพราะพระเจ้าสัญญาว่ากรรมเวรทั้งหมดพระเจ้าทรงรับให้แก่เราแล้ว
14.  การตามหาพระเจ้าจึงมีเสรีภาพจากสิ่งที่เราทำผิดมาแล้ว เราสามารถรับผิดแล้วขอพระเจ้าช่วยเหลือ พระเจ้าจะช่วยจัดการให้อย่างเหมาะสม โดยสงวนชีวิตของเราไว้อย่างแน่นนอน
15.  พระเจ้าจะพัฒนาเรา ดูเหมือนใหม่ ใจกว้างขึ้น มีคุณภาพ
16.  การสะดุด เมื่อคู่อริหรือศัตรูเข้ามา คำว่าสะดุดไม่ควรออกจากปากเรา เมื่อมีปัญหาหรือศัตรูเข้ามาไม่ใช่เราที่สะดุดและล้มลง แต่ปัญหาหรือศัตรูนั่นต่างหากที่สะดุดและล้มลง นี่คือถ้อยคำของความเชื่อ สิ่งเหล่านั้นจะต้องล้มลง โรคนี้มันจะสะดุดและล้มลง พระเจ้าจะเตรียมสิ่งสารพัดที่ข้าพเจ้ายังขาดอยู่  ข้าพเจ้าจะจ่ายทุกบิลที่เข้ามา ไม่ว่ามีหนี้เท่าไหร่ในเวลานี้ พระเจ้าจะช่วยให้ข้าพเจ้าปลดได้ทุกบาทและทุกสตางค์ ข้าพเจ้าจะมีและมีเพียงพออยู่เสมอ และมีเพียงพอที่จะทำงานทุกอย่างถวายแด่พระองค์
17.  แม้กองทัพตั้งค่ายสู้ข้าพเจ้า จิตใจข้าพเจ้าจะไม่กลัว 
18.  ให้พระองค์ปกครองชีวิต ยอมจำนนกับพระเจ้าในทุกเรื่อง พระเจ้าจะเติมสิ่งทั้งปวงให้
19.  ถวายอะไร พระเจ้าจะทวีสิ่งนั้น (ข้าพเจ้ารู้ว่าเมื่อข้าพเจ้าถวาย ยิ่งมีผลกำไรในบัญชี)
20.  เมื่ออธิษฐานสิ่งใด เชื่อว่าพระเจ้าโปรดฟัง จงเชื่อว่าได้รับก่อนอธิษฐานและหลังจากอธิษฐานจะได้รับ นั่นคือเงื่อนไข
21.  เมื่อมองไปข้างหน้าต้องมีความชื่นชมยินดีอยู่เสมอ เมื่อมองอนาคตความเสริมสร้างหนุนจิตและชูใจ
22.  ความเชื่อมั่น ความแน่ใจ ความมั่นใจ  ถ้าเจ้าเชื่อก็จงทำให้ได้ทุกอย่าง ถ้าเจ้าเชื่อเจ้าก็จะได้ทุกอย่าง
23.  การพูด ข้าพเจ้าจะใช้ปากจัดการกับศัตรูในชีวิต ความตายความเป็นอยู่ที่ลิ้น และเราจะกินผลของมัน
24.  ฉันจะรับสิ่งที่มาจากพระเจ้า ฉันจะไม่รับสิ่งที่มาจากมาร
25.  ความเชื่อมั่นแสดงออกมาจากคำที่พูด คนเชื่อมั่นจะพูด ความเชื่อมั่นไม่เก็บเงียบ พูดออกมา ข้าพเจ้าเชื่อข้าพเจ้าจึงพูด ถ้าคุณเชื่อมั่นคุณจึงพูด
26.  หากเชื่อ โรคแรกที่หายคือ โรคปวดหัว แต่คุณยืนหยัดไปเรื่อยๆ โรคหูอื้อ โรคเจ็บหน้าอก โรคเจ็บหัวเข่าทีละอันมันจะค่อยๆออกไป
27.  เราจะไม่กลัว เราจะเชื่อมั่น และเราจะถวายพระเกียรติแด่พระองค์
28.  ยากอบไม่ได้พูดถึงความบาปเลย ยากอบพูดว่า การพูดทำให้เราสร้างบาปได้ คำพูดสะท้อนว่าเรากำลังทำบาปอยู่ เมื่อเราไม่ผิดพลาดด้านการพูดเราก็เป็นคนสมบูรณ์แบบ ความสมบูรณ์แบบจึงอยู่ที่การใช้คำพูด
29.  คำพูด(ลิ้น)จะนำชีวิตเรา ลิ้นคือผู้นำที่แท้จริง มันควบคุมชีวิตเราได้ ให้ดูการพูดในแต่ละวัน
30.  บทสนทนาจะบอกอนาคตของเรา
31.  ยิ่งเงียบยิ่งกลืนยาพิษ    คนพูดน้อย มักชอบพูดแง่ลบ ไม่ไปถึงไหน
32.  คำพูดสามารถสร้างสิ่งให้เรามีได้ ไม้ขีดไฟก้านเดียวเผาป่าวายวอดได้
33.  เมื่อเราเชื่อพระเจ้า เราจะใช้ลิ้นเราเสริมสร้าง มากกว่าทำลายผุ้อื่น
34.  เราจะอิ่มท้อง เราจะทำมาค้าขึ้น เราได้รับเงินทองและโอกาศมากขึ้น ขึ้นอยู่ที่ว่าเราจะใช้คำพูดอย่างไร
35.  ท้องจะอิ่มก็เกิดจากผลของปากของเขา เขาหนำใจก็เพราะผลอันเกิดจากริมฝีปากของตน
36.  พระเจ้าก็พิพากษาคำพูดเป็นหลัก   บุคคลรักษาปากและลิ้นของตน ก็รักษาตัวเขาเองให้พ้นความลำบาก
37.  บางคนทำมาค้าขึ้น ร่ำรวย เพราะรูปแบบคำพูดในแต่ละวันนั้น นำพาไปในทิศทางนั้น
38.  คำพูดหรือลิ้น บ่งบอกว่าเราเป็นใคร  คำพูดดีเหมือนน้ำจืด ไม่ผสมน้ำเค็ม อธิษฐานต้องมีแต่คำในแง่บวก
39.  ลิ้นนั้นมาจากใจ บอกถึงสภาวะจิตใจนั้นเป็นอย่างไร
40.  มารหรือความหวาดกลัว มันจะชะลอและหยุดความเจริญข้างหน้า
41.  คริสเตียนดูหนังได้ ทำอะไรได้หมด เป็นดาราได้ ทำทุกอย่างได้หมด ดูหนัง ดูละคร ฟังเพลง  เพราะทุกอย่างเป็นกลาง คริสเตียนที่ดีคือโมเดล
42.  จิตใจที่ไม่กลัว ก็กล้าพูดในสิ่งที่เป็นแง่บวก ไม่พูดจาลามก สองแง่สามง่าม ตลกได้ หัวเราะเฮฮา แต่เราไม่พูดจาลามก  ไม่จำเป็น ต้องเอาโคลนมาแปะตัวเพื่อเพิ่มเสน่ห์
43.  คนที่ชอบท้าทายให้คนอื่นมีกำลังใจ เป็นคนที่มีความสุขในชีวิต
44.  คนที่พูดจาสุภาพแท้จริงมีหัวใจที่แข็งแกร่งมาก คนมีจิตใจแข็งแกร่งจะพูดจาสุภาพนุ่มนวล เพระมีความหนักแน่นในชีวิตของเขา  คนที่พูดความจริง จิตใจมีความซื่อสัตย์ มีแค่ไหนพูดแค่นั้น
45.  ใส่หัวใจใหม่ โดยการกลับใจใหม่  การฝึกพูดต่อหน้าชุมชนก็ดี แต่การพูดที่ดีได้ต้องกลับใจใหม่
46.  การเปลี่ยนการพูด ต้องยกเครื่องใหม่ กลับใจใหม่ คือการเชิญพระเยซูคริสต์เข้ามา
47.  เหตุฉะนั้นผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ผู้นั้นถูกสร้างใหม่แล้ว สิ่งสารพัดเก่าๆก็ล่วงไป นี่แหนะ สิ่งใหม่ทั้งนั้น
48.  ดังนั้น การพูดอย่างถูกต้องนั้นต้อง เปลี่ยนชีวิตใหม่ คือขอพระเยซูเข้ามาอยู่ในชีวิตของเรา แล้วเอาความบาปของเราออกไป เพื่อพลังแห่งคำพูดนั้นจะออกมาจากจิตใจที่เปลี่ยนใหม่
49.  ข้าแต่พระเจ้าขอจงสร้างจิตใจที่สะอาดภายในของข้าพเจ้าและฟื้นพลังที่หนักแน่นภายในของข้าพระองค์
50.  ขอพระเจ้าช่วยเราทุกๆวันผ่านการอธิษฐาน  การอธิษฐานเหมือนการเข้าเฝ้าพระเจ้า
51.  ขอทรงตั้งยามเฝ้าปากของข้าพระองค์ไว้ ขอทรงรักษาประตูริมฝีปากข้าพระองค์
52.  ความสำเร็จทั้งหลาย สร้างได้ด้วยคำพูด  ความร่ำรวยสร้างได้ด้วยคำพูด
53.  เมื่อถึงเวลาพูดก็ต้องพูด เรื่องที่พูดตอนนี้ก็ต้องพูด ต้องพูดจาทักทายกัน แท้จริงมีประโยชน์ทั้งนั้น
54.  อะไรที่เราเห็นเราอ่าน ก็จะอยู่ในความคิดของเรา อะไรที่อยู่ในความคิดของเราก็จะอยู่ในหัวของเราด้วย และจะอยู่ในหัวใจของเรา อะไรที่อยู่ในหัวใจของเรา ก็จะออกจากปากของเรา
55.  การเข้าเฝ้าพระเจ้า อธิษฐานเหมือนกับการถ่ายน้ำเสีย เอาของเสียออกไป เอาสิ่งใหม่เข้ามา
56.  มีภารกิจหลายอย่างในโลกนี้ที่เราต้องช่วยกันทำ เพราะเราอยู่ในสังคมแล้วใครล่ะจะช่วย
57.  คิดก่อนพูด   ไวในการฟังและช้าในการพูด  ถ้าเราไวในการฟัง เราจะช้าในการพูด โดยอัตโนมัติ
58.  คนที่พูดเร็วจะไม่ค่อยฟังคนอื่น ต้องหูผึ่งตลอดเวลา อย่าเพิ่งรีบพูด  ถ้าเราช้าในการพูด เราจะพูดได้ดีขึ้น ถ้าพูดไวจะพูดไม่ค่อยดี  อย่าเพิ่งรีบพูด อย่าเพิ่งด่วนสรุป อย่าเพิ่งตัดสิทธิ์  อย่าใช้สมองน้อยเกินไป
59.  ฟังแล้วคิด แล้วค่อยพูด ไม่ใช่พูด ไปก่อนแล้วค่อยฟังแล้วค่อยมาคิด อยู่กับพระเจ้า เหมือนเข้าคอร์สฝึกลิ้น
60.  จงทำตัวให้มีจิตใจใหม่ วิญญาณใหม่ และเปลี่ยนวิถีการพูดใหม่
61.  ต้องดูว่าคำพูดถูกต้องหรือยัง ถ้ายังไม่ถูกต้องกาละเวลา แสดงว่าเรายังต้องการการช่วยเหลือของพระเจ้าอยู่
62.  ฉันเป็นคนมีจิตใจฉลาดและมีปัญญา ฉันแสดงการประพฤติของฉันด้วยพฤติกรรมอันดี มีใจสุภาพ ประกอบด้วยปัญญา ซึ่งเป็นปัญญาที่มาจากเบื้องบน เพราะปัญญาจากเบื้องบนนั้นบริสุทธ์
63.  ขอพระองค์ทรงอยู่ในวันนี้กับข้าพระองค์ในการที่ข้าพระองค์จะเปลี่ยนแปลงชีวิต จากพระวจนะของพระเจ้า ที่ได้เข้ามาอยู่ในหัวใจของข้าพระองค์ ให้จิตใจข้าพเจ้าเติบโตขึ้น และมีจิตใจที่พร้อมที่อยู่ในชีวิตนี้อย่างผู้ที่ประสบความสำเร็จ  คนที่สร้างความสัมพันธ์ได้ดี ก็มีแนวโน้มจะประสบความสำเร็จได้สูง
64.  คนเชื่อมั่นดูได้จากโทรศัพท์มือถือมีกี่เบอร์ มีคนรอบกายกี่คน มีเพื่อนรอบๆทั่วทุกมุม
65.  การสร้างความสัมพันธ์เหมือนการหว่านพืช เรากำลังหว่านทุกวัน
66.  หว่านสิ่งใดเก็บสิ่งนั้น ต้องรีบหว่านทุกวัน  หว่านน้ำใจ เก็บเกี่ยวโอกาส หว่านการให้เก็บเกี่ยวความมั่งคั่ง หว่านความหวัง เก็บเกี่ยวความสำเร็จ หว่านการให้อภัย เก็บเกี่ยวการตอบแทน หว่านรอยยิ้ม เก็บเกี่ยวเยอะแยะ คนนั้นอยากจะอยู่กับคนที่เห็นคุณค่าในตัวเขา  สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้คือสิ่งที่เราหว่านไว้ในอดีต ตั่งแต่วันนี้เป็นต้นไปเราจะหว่านแต่สิ่งที่ดีๆ จงหว่านความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพ
67.  การสร้างสัมพันธ์เกี่ยวกับปัญญา  มีใจอ่อนสุภาพ และประกอบด้วยปัญญา
68.  เพราะการสร้างสัมพันธ์นั้นต้องใช้สติปัญญา หากเราขาดปัญญาเราจงทูนขอจากพระเจ้า
69.  หากมีปัญหาในการสร้างความสัมพันธ์ พระเจ้าบอกให้เราหันกลับมาดูตัวเองด้วยปัญญา
70.  คิดก่อนสัญญา ถ้าไม่แน่ใจอย่ารับปาก คิดก่อนเสมอ
71.  อุปสรรคของความสัมพันธ์ เพื่อน  คือ โกง โกหก ควบคุม หลอกลวง
72.  ดำเนินชีวิตให้เหมือนกับว่าถ่ายทำreality show ได้ตลอดเวลา โปร่งใส ไม่มีซ่อนบาป ไม่เป็นศัตรูกับใคร
73.  คนมีปัญญาคือคนที่เข้ากับคนอื่นได้เสมอ เข้ากับคนได้ทุกประเภท
74.  เริ่มต้นจากเราที่พยายามจะพูดคุย  การเข้ากับคนอื่นได้นั้นคือการสร้างสันติภาพ

วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2554

บทความและหลักคำสอนต่าง จากคำเทศนาศิษยาภิบาล

     บทความดีๆจากพระคัมภีร์ และคำเทศนาของศิษยาภิบาล
เป็นสิ่งที่เราใช้ยึดเหนี่ยวจิตใจ อ่านแล้วสบายใจ และมีความมั่นใจในการใช้ชีวิต
(ขอบคุณในนามพระเยซูคริสต์ เอแมน)


1.     พอรู้จักคนเยอะก็มีความสุข ก็จะเริ่มแบ่งปันกัน เราจะมีปัญญาโดยการเข้ากับผู้อื่นเสมอ อย่าถามชื่อเขาให้บอกชื่อเรา   ที่จะรักษาตนให้พ้นการวิวาทก็เป็นเกียรติ แต่คนโง่ทุกคนจะทะเลาะวิวาทกัน คนโง่จะทะเลาะกัน พระเจ้าจะลงโทษทั้งคู่    สาเหตุการทุ่มเถียง คือ การเปรียบเทียบ มารจะเริ่มทำงาน
2.     มีคนที่รวยกว่าท่าน จนกว่าท่านเสมอ มีคนที่สุขภาพดีกว่าท่าน สุขภาพแย่กว่าท่านเสมอ
3.     ดำเนินชีวิตให้สุดความสามารถ  เราไม่ต้องการเปรียบเทียบตัวเรากับบางคน แต่เมื่อเขาเอาตัวเขาเป็นเครื่องวัดมากเปรียบเทียบกันแล้วเขาก็เป็นคนขาดความเข้าใจในชีวิต เพราะชีวิตไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบ
4.     เราไม่ตำหนิ เพราะเป็นปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ของเรา และสาเหตุทะเลาะวิวาทกันมาจากเรื่องเล็กๆน้อยๆ
5.     เวลาเราจะเตือนหรือตำหนินั้น เราจะต้องพูดเหมือนกับสงสัย
6.     เพราะถ้าเราตำหนิ เหมือนกันเอาตัวเรากับตัวเขามาสู้กัน แต่ถ้าเราตำหนิเขา เราจะพูดเหมือนเราเป็นตัวแทนพระเจ้า เหมือนเรารับคำสั่งมาให้แนะนำเขา
7.     คนโกรธช้าก็มีความเข้าใจมาก บุคคลที่โมโหเร็วก็ยกย่องความโง่
8.     คนโกรธช้าดีกว่าคนฉลาด คนโกรธช้าดีกว่าคนมีสติปัญญา
9.     คนคุมอารมณ์ได้ดีก็คุมได้ดีก็คุมอย่างอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
10.  ที่เราไม่ได้รับโครงการทำงานบางอย่างไม่ใช่เราไม่มีความสามารถ ไม่ใช่เราไม่จริงใจ แต่เป็นไปได้ว่าเราขาดเสถียรภาพทางอารมณ์
11.  คนอารมณ์ที่ดีสามารถติดต่อคนฉลาดได้ แต่คนฉลาดแต่อารมณ์ร้ายก็บางครั้งไม่สามารถติดต่อกับใครได้
12.  ถึง ไอคิวจะสร้างอีคิวไม่ได้ แต่อีคิวสามารถสร้างไอคิวได้
13.  คนมีอารมณ์ร้ายก็ต้องทำงานอยู่คนเดียว  ถ้าฉลาดจะไม่ยอมเสียเหงื่อให้กับเรื่องจิ๊บจ๊อย
14.  เคล็ดลับของปัญญาคือการมองข้ามไปบ้าง   การมีปัญญาคือการรักสันติไม่ไปหาเรื่องใส่ตัว
15.  ให้ความสำคัญกับความรู้สึกของผู้อื่น และเขาจะให้ความสำคัญกับเรา
16.  ปัญญาจากเบื้องบนนั้น ประกอบด้วยเมตตา และผลที่ดี  เราต้องเข้าใจจิตใจคนอื่นไม่ใช่ให้คนอื่นมาเข้าใจจิตใจเรา การมีปัญญาคือการเอาใจเขามาใส่ใจเรา สุภาพ ใส่ใจ
17.  ลิ้นนั้นต้องทำให้เชื่องโดยการฝึกให้เต็มที   ลิ้นสามารถพาลงนรกได้ จงพูดในสิ่งที่เราเชื่อมั่น มั่นใจอยู่เสมอ
18.  พระเจ้าประทานสันติสุขให้กับเรา ลูกจะไม่วิตกและไม่กลัว  กล่าวพระคัมภีร์ไปซ้ำๆจนกว่าใจเราจะหนักแน่น
19.  ข้าพเจ้าสามารถผจญทุกอย่างได้ ข้าพเจ้าทำได้ อธิษฐานเผื่อคนที่ทำไม่ดีกับเรา
20.  ไม่พูดเกี่ยวกับปัญหาอีกต่อไป อย่ากล่าวปัญหาเรื่องอดีต กล่าวเรื่องเดิมๆซ้ำ ว่าเราเจออำไรมาบ้าง คนๆนั้นทำอะไรกับเรามาบ้าง มันไม่ก่อให้เกิดผลดี มีแต่จะทำให้เราจมลงไปเรื่อยๆ มีอุปสรรคขวางทางอย่าไปสนใจ ถ้ามีจุดหมายปลายทางก็อย่าหยุดดูมัน เสียเวลา เพราะพระองค์เตรียมอะไรหลายอย่างให้แก่เรา
21.  นอกจากเราจะไม่พูดถึงปัญหาแล้วเราจะให้อภัย เราอย่าเสียเวลากับเรื่องเหล่านั้นเลย ไม่พูดถึงปัญหาแล้ว
22.  ให้พูดแต่สิ่งที่มันน่ารัก
23.  น้ำไหนที่ขังไม่ไหลเวียนเอาของใหม่ๆ มันจะเน่า ขับไล่สิ่งไม่ดีแล้วต้องเติม   เปลี่ยนความคิดไปด้านอื่นเลย
24.  กังวลในแง่บวก คือคิดถึงใตร่ตรอง ใคร่ครวญกับพระวจนะ  จงวางใจจงทำความดี อาศัยอยู่ในบ้านอย่างความชื่นบานและปลอดภัย และพระองค์จะประทานทุกอย่างตามความปรารถนาของท่าน
25.  เราจะรู้ว่าพระองค์จะเตรียมอะไรให้กับเรา เราจะวางใจมากขึ้น
26.  พระองค์ทรงเป็นกำลัง และบทเพลงของข้าพเจ้า
27.  เราควรกล่าวสิ่งที่พระเจ้าประทานอะไรมาให้เรา เพื่อความเชื่อมั่นอยู่เสมอ กล่าวซ้ำไปเรื่อยๆ
28.  นั่งกล่าวสนทนาพูดคุยกับพระองค์ พระองค์ต้องการให้เราเป็นหัวไม่ใช่หาง
29.  แวดล้อมตัวเองเอาไว้ให้มีแต่คนที่ให้กำลังใจอยู่เสมอ ต้องเลือกที่จะสนิทกับคนที่ให้กำลังใจ อย่าคบคนที่คอยแหย่เราแรงๆ เลือกคบกับคนที่หนุนใจเราขึ้นมา และเราก็ต้องเป็นเช่นนั้นกับคนอื่นเหมือนกัน
30.  กล่าวความเชื่อ อย่าพูดถึงปัญหา เลือกที่จะให้ถ้อยคำของเราหนุนจิตชูใจคนอื่น ให้คนเหล่านั้นแวดล้อมเราอยู่เสมอ   พระองค์บอกให้เรามุ่งมั่นที่จะก้าวสูงขึ้น ลืมทุกสิ่งที่อยู่เบื้องหลังแล้วก้าวสูงขึ้น
31.  ลืมข้างหลังเสีย แล้วโน้มตัวไปข้างหน้า โน้มตัวให้ถึงเส้นชัย บุคคลที่จะแข่งด้วยคือตัวเราเองเท่านั้น
32.  พระเจ้าประทานเงินให้ เพื่อให้เรามอบแก่คนอื่นด้วย เพราะพระองค์มีช่องทางผ่านทางเรา
33.  เราให้ออกไปมาก พระองค์จะเพิ่มเติมให้เรามากกว่าหลายเท่า ให้ตัวเองกระตุ้นตัวเองขึ้นมา อย่าพึงคนอื่น
34.  คิดแต่เรื่องน่ารัก เติมเต็มตัวเองด้วยพระองค์ พระองค์ให้เราเป็นหัวไม่ใช่หาง
35.  มีปากที่จะกล่าวถ้อยคำให้ชีวิต มีหูที่พร้อมจะรับ มีใจที่เป็นดินดีแล้ว เหลือแต่จะให้ชีวิตออกผลแค่ไหน เราพร้อมแล้ว ที่จะเจ็บบ้างให้เขาได้รับจากเราไปเพื่อเค้าได้รับพระพร ข้าพองค์เทิดทูนพระเจ้า ในนามพระเยซู
36.  ฉันเป็นตัวของตัวเองเสมอ ไม่พยายามจะเหมือนใครๆ เหมือนการไปเลียนแบเขา และไม่อยากให้ใครๆเป็นเหมือนเรา เพราะนั่นจะกลายเป็นการคิดมากว่าเราดี ฉันจึงเป็นตัวของตัวเองเสมอ เปิดกว้างเสมอ
37.  การพยายามทำให้คนอื่นพอใจก็เกิดความทุกข์ได้ ฉันจะไม่พยายามให้ใครต้องมาพอใจเพราะฉัน เพราะไม่มีในพระคัมภีร์ พระคัมภีร์จึงบอกว่า คนที่เป็นสุขนั้นจะไม่พยายามทำให้คนอื่นพอใจหรือ กลัวการถูกตำหนิ หรือถูกว่า แต่จะมีวิถีชีวิตที่ถูกต้องที่สุด พระคัมภีร์บอกว่า หากเราเราทำในสิ่งที่ถูกต้องจะต้องเจอคำดูถูกตำหนิ หากเราผ่านจุดนี้ไป เราจะได้เจอความสุขอีกแบบนึง หรือได้เจอเหรียญอีกด้านนึง ดังนั้นเมื่อเราเชื่อพระเจ้า เราจะไม่กลัวเรื่องการ ตำหนิ ดูถูกเลย เราไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการดูถูก เราจะไม่กลัวถูกดูถูก นั่นเป็นเรื่องเล็ก เพราะเราไม่ได้ทำให้คนถูกดูถูก แต่เราทำในสิ่งที่ถูกต้องที่ควรจะทำ
38.  แต่ยังไงก็ตามไม่ว่าจะยังไงก็ตามวันนึงเราจะถูกตำหนิติเตียนแน่นอน จงเตรียมตัว อย่าหลีกเลี่ยง แต่อย่าสนใจ
39.  วางตัวถูกต้องกับบุคคลทั้งปวง  ใครว่าเรา เราชมกลับ จะยกสูงทั้งคู่ ไม่กดกัน
40.  เมื่อมีคนกดเรา พระคัมภีร์สั่งให้เรา ยกโทษ ให้อภัย และอธิษฐานเผื่อเขา รวมเป็น รักศัตรู
41.  การร่าเริงเหนือสถานการณ์  ให้over action ไปเลย
42.  เมื่อไหรเราแตกต่างแล้วเราจะโดดเด่น ไม่เหมือนใคร ยิ่งดี
43.  ดีใจ ร่าเริง คิดบวก เมื่อมีใครมากดเราข่มเหงเราเราก็ดีใจ แปลเป็นอีกแบบนึง เพราะว่านั่นแสดงว่าพระเจ้าอยู่กับเรา ถ้าเราอยู่กับพระเจ้า มารจะถูกattact ทันที
44.  ถ้าไม่ถูกข่มเหงเลยก็จะไม่สมบูรณ์แบบเลย ไม่ท้าทาย
45.  เปลี่ยนใจใหม่ เปลี่ยนวิธีคิดใหม่ เราเป็นที่ยอมรับเสมอ  พระเจ้ายอมรับเราขณะเรายังบาป เพื่อรักษาเรา  พระเจ้ายอมรับเราอยู่แล้ว เราไม่จำเป็นต้องทำให้ใครมายอมรับเรา พระเจ้ายอมรับเราแม้เราร้องไห้โดยไม่มีเหตุผล
46.  แม้เราถูกหักแม้เราถูกปฏิเสธ แต่ก็ยังมีพระบิดาของเราที่ยอมรับเรา
47.  สิ่งนี้จะมีค่าหรือไม่อยู่ที่ว่าใครเป็นเจ้าของมันอยู่ พระเจ้าทรงเป็นเจ้าของ ใครจะมาแตะเราไม่ได้ และพระเจ้าก็ยอมจ่ายให้เรา  เราจึงมีค่าเสื้อราคาเท่ากัน แต่มันมีค่าเพราะมันเป็นของคนดัง
48.  คนจะล้มอยู่ในบาปถ้าเห็นตนเป็นคนเล็กน้อยสกปรกมอมแมม ก็จะทำบาปไมเรื่อย คิดโน่นคิดนี่ เอาเงินไปใช้ผิดประเภท เพราะเราลืมมูลค่าของเรา
49.  ปัญหาใหญ่ๆคือ ปัญหาเล็กๆที่เราปล่อยทิ้งไว้นานๆ เหมือนน้ำหยดหรือน้ำรั่วซืม
50.  เราเป็นที่ยอมรับ ฉันมีคุณค่า ฉันได้รับการอภัยเสมอ ฉันมีความสามารถเผชิญกับความล้มเหลวได้
51.  เลือกเอาว่าจะให้พระเจ้าจัดการเค้าคนเดียวหรือจัดการเราด้วย ถ้าอย่างนั้นเราก็ต้องจัดการตัวเอง
52.  ถ้าเราเป็นคนชอบโกรธมันก็ทำร้ายแต่เราเท่านั้นแหละ
53.  เราจะอยู่แบบสันติเสมอ เราจะไม่มีปัญหากับใคร
54.  เราวางแผนชีวิต  เริ่มต้นเคลียร์ปัญหา ทีละเรื่อง เรื่องต่อเรื่อง
55.  เริ่มต้นชีวิตใหม่โดยการไม่มีปัญหากับใครซักคนเดียวในโลกนี้ เค้าจะดีไม่ดีไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้เราแย่ไปด้วยเราก็เป็นของเรา เค้าอยู่ของเค้าแต่เราพยายามดูแล พระเจ้าสอนเราให้ฉลาดด้วยซ้ำไป
56.  จงอธิษฐานด้วยความเชื่อมั่น มั่นใจแรงกล้า  เขาจะหายจากโรค ให้ชีวิตที่เหลืออยู่นี้มีแต่ความสุขความสำเร็จในนามของพระเยซูคริสต์
57.  สถานการณ์ที่ควรเข้าเฝ้าเพื่ออธิษฐานต่อพระเจ้า  1 คื อเมื่อมีความทุกข์ในจิตใจ ภาวะกดดัน เกิดกว่าจะทนได้ อึดอัด งานไม่มั่นคง ภาวะสูญเสีย คนรักสูญเสีย  เจ็บป่วยทางจิตใจ ความสัมพันธ์จึงสามารถมีกับพระเจ้าได้  2 เมื่อเรามีความเจ็บป่วยร่างกาย อย่างรุนแรง
58.  การเจ็บป่วยถ้าเราไม่ทำผิด พิจารณาตัวเองก็คงไม่ถูกทำโทษ
59.  ต้องต่อสู้กับความต้องการของตัวเองให้ได้
60.  ทำไมเราเป็นแบบนี้ เพราะเราทำแบบโน๊นมา หว่านอะไรเก็บเกี่ยวอย่างนั้น
61.  คนโกงก็จะถูกโกง วันยังค่ำ ถ้าเราใจกว้างกับทุกคนเราจะได้รับการดูแล
62.  ของฟรีมีสิ่งที่น่ากลัวอยู่เบื้องหลัง ดังนั้นหากเราได้อะไรมา เราต้องหว่านไป ของเหล่านั้นจะได้อย่างแน่นอน เพราะเอาจากคนอื่นเขาก็กว่าจะได้มาก็แทบตาย
63.  สิ่งที่ทำให้เราร่ำรวยได้ เพราะเราขยันขันแข็งและได้มาด้วยความซื่อสัตย์
64.  เราไม่ใช่คนเกียจคร้าน เพราะคนเกียจคร้าน ชอบขโมย ไม่ว่าจะล่อลวงอะไรก็แล้วแต่เราจึงไม่เกียจคร้านเพื่อตัดวงจรขโมยออกจากชีวิตของเรา
65.  มีหนทางรวยแบบทุจริตเยอะแยะ ไปแต่จะมีประโยชน์อะไรถ้าเรารวยสักร้อยล้านแต่อยู่ได้สิบปีแล้วไม่ได้อยู่กับพระเจ้า มีความรวยแต่ซื่อสัตย์สุจริต ตายไปก็ได้ไปอยู่กับพระเจ้าดีกว่าเสียอีก
66.  เราไม่เผลอรับปากใครในสิ่งที่ทำไม่ได้มารเป็นพ่อแห่งการมุสา คือรับปากแล้วทำไม่ได้ และเป็นพ่อแห่งการขโมย เราจึงไม่เป็นพวกของมาร    ตอนจบ คนซื่อสัตย์จะมีความมั่นคงกว่า